ไม้เลื้อย มงคล ปลูกในบ้าน การปลูกไม้เลื้อยถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกช่วยประหยัดพลังงานและคลายร้อนในช่วงที่อากาศร้อนเช่นนี้อย่างได้ผล โดยเฉพาะในวันที่แสงแดดแผดเผา ร่มเงาของต้นไม้เขียวขจียังคงปกป้องคุณได้ ลองมาดู 5 ไม้เลื้อยทนแดดที่นอกจากจะช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียว ให้กลิ่นหอมสดชื่น และช่วยรับแสงแดดแทนผนัง ทำให้ห้องเย็นลง ลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศของคุณ วิธีการเตรียมตัวเพื่อปลูกไม้เลื้อยทนแดดในบ้าน ก่อนจะไปรู้จักพันธุ์ไม้เลื้อยที่เหมาะกับการปลูกในบ้าน มาดูวิธีการเตรียมตัวก่อนปลูกไม้เลื้อยกัน ซึ่งมีวิธีการไม่ยุ่งยาก ดังต่อไปนี้
- 1. เตรียมตัวก่อนปลูกไม้เลื้อย และการปรับปรุงดิน ก่อนจะเริ่มต้นเลือกไม้เลื้อยทนแดดที่ถูกใจ การปรับปรุงดินเป็นขั้นตอนสำคัญเพื่อให้ต้นไม้อยู่รอดและเติบโตได้แบบที่ต้องการ ซึ่งคุณสามารถทำได้ด้วยตัวเองไม่ยาก โดยนำดินถุงคลุกเคล้ากับปุ๋ยคอก เศษใบไม้แห้งชิ้นเล็ก เศษอาหารสด เช่น กากกาแฟ ผัก ผลไม้ หัวเชื้อจุลินทรีย์ และน้ำตาล หลังจากนั้นเติมน้ำให้ชุ่มและทดลองกำดินที่ผสมแล้ว ถ้าจับกันเป็นก้อนไม่แตกและบีบจนไม่มีน้ำไหลออกมา นำใส่ถุงดินตั้งทิ้งไว้ในที่ร่มเพื่อเตรียมนำมาปลูกต้นไม้ต่อไป
- 2. เลือกพันธุ์ไม้ที่ใช่ ในปัจจุบันสามารถเลือกพันธุ์ไม้เลื้อยหลากหลายชนิดนำมาแต่งบ้านเป็นซุ้มบังแดด หรือแขวนประดับทั้งกระถาง ทั้งยังสามารถดัดแปลงทำเป็นซุ้มนั่งพักผ่อน ใช้กั้นสัดส่วนพื้นที่ และใช้เป็นที่บังสายตา เป็นต้น ซึ่งแต่ละพันธ์ุไม้เลื้อยก็มีจุดเด่น และความเหมาะสมแตกต่างกัน พันธุ์ไม้เลื้อยทนแดดที่เหมาะกับการปลูกในบ้าน
ขอแนะนำพันธุ๋ ไม้เลื้อย มงคล ปลูกในบ้าน 5 ชนิด
-
ชมนาด
ไม้เลี้อยใบเขียวสดที่ออกดอกเป็นช่อสีขาวอมเขียว ไม้เลื้อย มงคล ปลูกในบ้าน ช่อละประมาณ 10-15 ดอก สามารถบานทนได้นานเป็นสัปดาห์ให้กลิ่นหอมแรงและทนนาน โดยเฉพาะช่วงหัวค่ำ ส่วนกลางวันก็ให้ร่มเงาจากเถาที่ปกคลุมทำซุ้มที่นั่ง ซึ่งการปลูกชมนาดทำได้ง่าย เพราะแข็งแรง ทนสภาพแห้งแล้งได้ดี สามารถปลูกในดินได้ทุกชนิด โดยเฉพาะดินชื้นที่ระบายน้ำได้ดี ตัดแต่งได้ง่าย และมีอายุยืนนาน นอกเหนือจากความสวยงามและร่มเงาที่ได้รับ ชมนาดยังมีประโยชน์ทางสมุนไพรสามารถนำไปทำเป็นยารักษาบาดแผลภายนอก เพิ่มความดันเลือด รวมถึงการนำดอกชมนาดทำข้าวแช่ เครื่องหอม และเครื่องอบ เป็นต้น
-
พวงชมพู
ดอกไม้สีชมพูและสีขาวที่สามารถเลื้อยพันสิ่งต่าง ๆ ได้ไกลประมาณ 40 ฟุต สามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินทุกชนิดที่มีความชื้น โดยออกดอกเป็นช่อหรือเป็นกระจุกตามแขนงช่อ ซึ่งช่อแขนงยาวประมาณ 1-5 เซนติเมตร ส่วนปลายช่อสุดจะเกาะเกี่ยวสิ่งอื่น ๆ เพื่อพยุงตัว โดยสามารถนำมาปลูกลงกระถางตั้งที่มีหลักสำหรับเกาะยึดเลื้อยขึ้นไปหรือปลูกลงในกระถางและแขวนห้อยลง ไม้เลื้อยมงคล ทนแดด หรือปลูกคลุมซุ้มที่นั่งให้ร่มเงาได้ การปลูกพวงชมพูให้เน้นบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึงเป็นหลัก รดน้ำให้ชุ่มประมาณวันละ 1-2 ครั้ง พวงชมพูยังสามารถนำยอดอ่อนและช่อดอกที่ยังไม่บานเต็มที่ นำมาลวกให้สุกเพื่อรับประทานได้ ทั้งยังนำรากและเถาต้มน้ำทำเป็นยานอนหลับหรือยากล่อมประสาทได้
-
อัญชัน
พันธุ์ไม้เลื้อยล้มลุกขนาดเล็กที่สามารถเลื้อยได้ไกลถึง 20 ฟุต และออกดอกตลอดปี โดยมีหลายสีสันให้เลือก เช่น สีม่วง สีน้ำเงินอมม่วง สีฟ้า และสีขาว วิธีการปลูกไม่ยุ่งยากซับซ้อน เพียงแค่นำเมล็ดแห้งของต้นอัญชันแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน และนำมาห่อผ้าทิ้งไว้ 2-3 วันให้รากงอก จากนั้นนำดินที่เตรียมไว้ใส่กระถางประมาณขอบล่าง โดยไม่ควรใส่ดินจนเต็มกระถาง เพื่อให้เหลือพื้นที่สำหรับรับน้ำเวลาปลูก หลังจากนั้น รดน้ำลงบนดินปกติ และขุดหลุมในกระถาง เพื่อวางเมล็ดอัญชันประมาณ 2-3 เมล็ด หากต้องการให้อัญชันงอกเร็วขึ้น สามารถนำถุงพลาสติกคลุมให้ทั่วทั้งกระถาง เพื่อให้เกิดความชื้น หลังจากต้นงอกพ้นดินแล้วจึงนำถุงออกและนำกระถางรับแสงธรรมชาติ
-
เฟื่องฟ้า
ไม้ประดับที่ได้รับความนิยมปลูกเป็นซุ้มไม้เลื้อย ซุ้มนั่งเล่น ด้วยสีสันสดใสและสามารถตัดแต่งได้ง่าย ทั้งยังปลูกไม่ยาก ไม่ต้องดูแลเอาใจใส่มาก โรค แมลงศัตรูพืชน้อย ทนทานต่อสภาพแวดล้อม และปลูกได้ในดินทั่วประเทศ เฟื่องฟ้ามีหลายสายพันธุ์ให้เลือกปลูก เช่น ขาวน้ำผึ้ง, ม่วงประเสริฐ, ทัศมาลีดอกขาว, ชมพูนุช, ชมพูทิพย์, เหลืองไพล และแดงธงชัย นอกจากนั้นไม้เลื้อยทนแดด ดอกหอม เฟื่องฟ้ายังได้รับสมญานามว่า “ราชินีแห่งไม้ประดับ” และเกี่ยวข้องกับความเป็นสิริมงคลในเทศกาลตรุษจีน เนื่องจากดอกเฟื่องฟ้ามักบานสะพรั่งในช่วงเทศกาลตรุษจีน จนถูกเรียกว่าต้นตรุษจีน ซึ่งเกี่ยวข้องกับความหมายเกี่ยวกับความเบิกบาน สว่างไสว และความรุ่งเรือง โดยส่วนใหญ่มักปลูกต้นเฟื่องฟ้าไว้ทิศตะวันออกเพื่อเสริมฮวงจุ้ย เพิ่มความเป็นสิริมงคล
-
ผักบุ้งรั้ว หรือผักบุ้งฝรั่ง มอร์นิ่งกลอรี่ (Morning Glory)
ผักบุ้งรั้ว หรือผักบุ้งฝรั่ง (Morning Glory) ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผักบุ้ง แต่แค่มีหน้าตาละม้ายคล้ายกัน โดยผักบุ้งรั้วเป็นไม้เลื้อยทนแดดอายุสั้นที่สามารถเลื้อยได้ไกล 10 เมตร ใบเป็นรูปหัวใจโคนใบเว้าเข้าหาก้านใบ มีดอกรูปทรงแตรหลายสี ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบและปลายยอดประมาณ 1-5 ดอก โดยส่วนใหญ่เป็นสีฟ้าอมม่วง สีขาว และสีชมพู ก่อนจะได้รับการพัฒนาสายพันธุ์หลายสี เช่น สีชมพู ฟ้า ม่วง และดอกที่มีริ้วสีขาวกระจาย สำหรับวิธีการปลูกให้เน้นบริเวณที่มีแสงแดดตลอดวัน รดน้ำวันละครั้ง และบำรุงปุ๋ยประมาณเดือนละครั้ง โดยควรตัดแต่งใบ ต้น และดอกสม่ำเสมอ เพื่อให้มีที่สำหรับต้นใหม่งอกขึ้นมาทอดเลื้อยทดแทนได้ และสามารถออกดอกตลอดปี